น้ำทะลัก!เข้าท่วม ตลาดบางบัวทอง
พนังกั้นน้ำวัดละหารพัง น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดบางบัวทองสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านต่างหนีเอาตัวรอด
นนทบุรี 18 ต.ค. - ศูนย์เฝ้าระวังน้ำท่วม สภ.บางบัวทอง แจ้งว่าเมื่อเวลา 00.30 น. พนังกั้นน้ำที่ด้านหลังวัดละหาร ติดกับคลองพระพิมลราชา ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต้านแรงดันน้ำไม่ไหว พังทลายลงมา ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมวัดละหาร โรงเรียนเทศบาลวัดละหาร และบ้านเรือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกชุมชนวัดละหาร ชาวบ้านต่างหนีเอาตัวรอด โดยไม่สามารถเอาทรัพย์สินออกมาได้ รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถโรงเรียนถูกน้ำท่วมเกือบ 30 คัน
ขณะที่กระแสน้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมตลาดสดบางบัวทองและพื้นที่เศรษฐกิจ อ.บางบัวทอง ซึ่งทางเทศบาลเมืองบางบัวทองได้นำเครื่องมือหนัก ดิน และกระสอบทราย มาวางปิดช่องน้ำที่ทะลัก แต่ไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และน้ำยังได้ขยายวงกว้าง เพียงไม่นานน้ำก็เจิ่งนองสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านที่อยู่ในตลาดต่างออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อช่วยกันปิดช่องน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วม
ด้านการไฟฟ้านครหลวง สาขาบางใหญ่ ตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
ข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต -แฟ้มข่าว
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต -แฟ้มข่าว
ผู้ว่าฯ สั่งระดม แนวคันกั้นน้ำ ริมคลองหกวา
18 ต.ค. - ผู้ว่าฯ กทม.สั่งระดมกำลังเสริมแนวคันกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมพื้นฝั่งทิศเหนือของกรุงเทพฯ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แถลงภายหลังรับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่าน้ำจากทิศเหนือซึ่งผ่านทะลุคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้ไหลมาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 01.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งกรุงเทพฯ จะเสริมแนวคันกระสอบทรายริมคลองหกวาที่มีความยาว 6 กิโลเมตร ขึ้นไปอีก 50 เซนติเมตร จากเดิมที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลอยู่ 2.5 เมตร และเสริมแนวคันกั้นน้ำริมถนนประชาสำราญ ในระดับความสูงเดียวกันอีก 15 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องใช้กระสอบทรายถึง 1.2 ล้านกระสอบ เชื่อว่าทางรัฐบาลจะช่วยจัดหากระสอบทราบมาช่วย 1 ล้านใบ ตามที่ตกลงกันไว้ รวมทั้งจะประสานงานกับกรมทางหลวงชนบทช่วยดูแลช่องทางน้ำบริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงข้ามมาสู่คลองรังสิต ที่น้ำอาจย้อนเข้ามาทางกรุงเทพฯ ได้ ซึ่งตนจะเดินทางไปตรวจพื้นที่ดังกล่าววันนี้ เวลา 07.00 น.อย่างไรก็ตาม ขอให้ชาวกรุงเทพฯ อย่าได้ตื่นตระหนก คอยติดตามข่าวสารจาก กทม.เป็นระยะ และออกมาช่วยกันปกป้องพื้นที่กรุงเทพมหานครให้พ้นจากวิกฤติ
ข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ผู้ว่าฯ ห่วง สายไหม-ดอนเมือง ชี้ยังไม่พ้นวิกฤต
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชี้ ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุ ยังไม่ปลอดภัย ห่วงทางด้านเหนือ สายไหม-ดอนเมือง พื้นที่ติดคลองรังสิต หวั่นคันกั้นน้ำแตก เผย เสริมแนวกั้นน้ำคลองหกวายาว 6 กม.เสร็จแล้ว วอนขอบริจาคทรายที่สำนักงานเขตทุกแห่ง 17 ต.ค.2554 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สถานการณ์เฝ้าระวังน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ยังถือว่าไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ด้านเหนือของ กทม.ในเขตสายไหม และดอนเมือง ยังถือน่าห่วงมากที่สุด เนื่องจากในพื้นที่ติดกันที่ข้ามคลองรังสิตไปยังมีสถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าลงมา ประกอบกับมีข่าวว่า คันกันน้ำหลายแห่งแตก ซึ่งหากเป็นจริงอาจส่งผลกระทบไปถึงเขตคลองสามวาด้วย ส่วนแนวคันกั้นน้ำริมคลองหกวาได้เสริมกระสอบทรายระยะทาง 6 กม.เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้เพิ่มความสูงเป็น 50 ซม.เป็นระยะทางอีก
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักการโยธา ยกระดับถนนเลียบคลอง 2 สูงขึ้นอีก 30 ซม.ระยะทาง
ส่วนสถานการณ์น้ำล่าสุดปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 มีความเร็วการไหลอยู่ที่ 4,238 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ขณะที่ น้ำทะเลหนุนสูงเมื่อเวลา 09.59 น.อยู่ที่ระดับ 1.08 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดได้ที่ปากคลองตลาดเมื่อเวลา 07.00 น.อยู่ที่ 1.56 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.24 เมตร และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิดและอย่าตื่นตระหนก
เฝ้าระวังระดับน้ำประตูจุฬาลงกรณ์รังสิตใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่และประชาชนในย่านชุมชนรังสิต ตลาดรังสิต และห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำด้านหลังประตูน้ำจุฬาลงกรณ์อยู่ที่2.80 เมตร ขึ้นจากวานนี้ 10 ซม.ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงต้องอพยพออกมา เพื่อความปลอดภัย ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีมีบางซอยน้ำท่วมแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกตลอดเวลา รวมถึงจุดกลับรถใต้สะพานคลอง 1 คลอง 2 ที่มีการนำกระสอบทรายเข้าไปเสริม ด้านประตูน้ำเชียงรากน้อย ด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้เสริมคันกั้นอีก 50 ซม.เพื่อป้องกันน้ำ
ข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เฝ้าระวังระดับน้ำประตูจุฬาลงกรณ์รังสิตใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่และประชาชนในย่านชุมชนรังสิต ตลาดรังสิต และห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำด้านหลังประตูน้ำจุฬาลงกรณ์อยู่ที่
ข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
นวนคร เอาไม่อยู่!น้ำท่วมแล้ว
คันกั้นน้ำนิคมฯ นวนคร ด้านเหนือ แตกแล้ว! รง.เหล็กเส้น-คูโบต้า เจอด่านแรก ผู้บริหารฯ เร่งประกาศแจ้ง 190 บริษัท พนักงาน 2 แสนชีวิต สั่งปิดเครื่องจักร เร่งอพยพคนด่วน สถานีโทรทัศน์รายงาน ปชช. หนีตายอลม่าน คาดใช้เวลา 1-2 ชม. แก้ไข หากควบคุมไม่ได้ อาจต้องออกจากพื้นที่ทั้งหมด ระบุ ปริมาณน้ำนอกเขื่อนสูงกว่า 2.5 เมตร
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครล่าสุด คันกั้นน้ำด้านเหนือนิคมฯ นวนคร ทรุดตัว 5-8 เมตรน้ำเริ่มไหลเข้าบ่อบำบัด มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพคนออกพ้นพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว
โดยเมื่อเวลา 11.20 สถานการณ์ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แตกแล้ว โดยผู้สื่อข่าวเนชั่นแชนัล ได้รายงานว่า น้ำได้เข้านิคมอุตสาหกรรมนวนครแล้ว โดยโรงงานที่ถูกน้ำท่วมคือโรงงานเหล็กเส้น และโรงงานคูโบต้า
สถานีโทรทัศน์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากและผู้ประกอบการ คนงานในนิคมฯ ระดมกำลังป้องกันพื้นที่ภายในนิคมฯ นวนคร กำลังเร่งเสริมคันดินด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากบ่อบำบัดไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ โดยได้มีการขุดแนวคูน้ำเพื่อรองรับน้ำที่จะไหลเข้ามาด้วย
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ยอมรับว่า คันกั้นน้ำทางทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เกิดรอบแตก 2 จุดใหญ่ โดยจุดแรก พบว่า มีรอยรั่วขนาดใหญ่ 5-8 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้ามาในบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่ยังไม่เข้ามาถึงพื้นที่ชั้นในซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรรม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมใช้มาตรการให้เฮลิคอปเตอร์นำวัสดุอุปกรณ์เข้ามาปิดรอยรั่วเป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้เร่งจัดการอพยพคนงานในโรงงานที่ใกล้เคียงจุดดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
"บริเวณที่น้ำทะลักเข้ามาใเขตนิคมฯ เป็นเขตบ่อบำบัดน้ำเสีย ใกล้โรงงานคูโบต้า ขณะนี้จะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้ แต่ถ้าควบคุมไม่ได้จริงๆ คงต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่"
ตอนนี้ พบว่า พนังกั้นน้ำหลังบ่อบำบัดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี แตกใน 2 จุด โดยชั้นแรกแตกเป็นระยะทางยาว6 เมตร และพนังกั้นชั้นที่ 2 แตกยาวประมาณ 30 เมตร ทำให้น้ำที่ท่วมสูงบริเวณด้านนอกทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วนั้น ล่าสุดชาวบ้านและทหารกว่า 500 คน เร่งเพิ่มกระสอบทรายเพื่อหวังอุดรอยรั่ว
สำหรับปฏิบัติการ กู้สวนอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในขณะนี้ ประชาชนในนวนครและทหารหลายสิบนาย ต่างระดมกำลังช่วยกันนำกระสอบทรายไปวางตามแนวคันกั้นน้ำและบางส่วน ยังช่วยกันตอกเสาไม้ยูคาลิปตัส เพื่อป้องกันดินสไลด์
ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันน้ำที่จะเอ่อล้นมาจากคลองเปรมประชากร และคลองระพีพัฒน์ ที่อ้อมมาทางด้านหลัง ใกล้กันกับ วัดพืชนิมิตร อ.คลองหนึ่ง ซึ่งระดับน้ำนอกแนวคันกั้น สูงกว่า2.5 เมตร
โดยจากการสอบถามนายทหาร จากกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ กล่าวว่า มีความมั่นใจไม่ถึง 100% เนื่องจาก ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลมาจากหลายทิศทาง จึงทำให้เกิดรอยรั่วหลายจุด ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ก็กำลังเสริมคันดินให้แข็งแรงขึ้น และอุดรอยรั่วอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามปฏิบัติการกู้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อย่างใกล้ชิดต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.15 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ได้สั่งการนิคมอุตสาหกรรมนวนครปิดเครื่องจักรและอพยพของและคนขึ้นที่สูงแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำได้ไหลบ่าลงมาเข้าท่วมประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เดิมที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมนวนครมีโรงงานกว่า 190 บริษัท และมีพนักงานกว่า 2 แสนคน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครล่าสุด คันกั้นน้ำด้านเหนือนิคมฯ นวนคร ทรุดตัว 5-8 เมตรน้ำเริ่มไหลเข้าบ่อบำบัด มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพคนออกพ้นพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว
โดยเมื่อเวลา 11.20 สถานการณ์ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แตกแล้ว โดยผู้สื่อข่าวเนชั่นแชนัล ได้รายงานว่า น้ำได้เข้านิคมอุตสาหกรรมนวนครแล้ว โดยโรงงานที่ถูกน้ำท่วมคือโรงงานเหล็กเส้น และโรงงานคูโบต้า
สถานีโทรทัศน์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากและผู้ประกอบการ คนงานในนิคมฯ ระดมกำลังป้องกันพื้นที่ภายในนิคมฯ นวนคร กำลังเร่งเสริมคันดินด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากบ่อบำบัดไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ โดยได้มีการขุดแนวคูน้ำเพื่อรองรับน้ำที่จะไหลเข้ามาด้วย
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ยอมรับว่า คันกั้นน้ำทางทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เกิดรอบแตก 2 จุดใหญ่ โดยจุดแรก พบว่า มีรอยรั่วขนาดใหญ่ 5-
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมใช้มาตรการให้เฮลิคอปเตอร์นำวัสดุอุปกรณ์เข้ามาปิดรอยรั่วเป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้เร่งจัดการอพยพคนงานในโรงงานที่ใกล้เคียงจุดดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
"บริเวณที่น้ำทะลักเข้ามาใเขตนิคมฯ เป็นเขตบ่อบำบัดน้ำเสีย ใกล้โรงงานคูโบต้า ขณะนี้จะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้ แต่ถ้าควบคุมไม่ได้จริงๆ คงต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่"
ตอนนี้ พบว่า พนังกั้นน้ำหลังบ่อบำบัดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี แตกใน 2 จุด โดยชั้นแรกแตกเป็นระยะทางยาว
สำหรับปฏิบัติการ กู้สวนอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในขณะนี้ ประชาชนในนวนครและทหารหลายสิบนาย ต่างระดมกำลังช่วยกันนำกระสอบทรายไปวางตามแนวคันกั้นน้ำและบางส่วน ยังช่วยกันตอกเสาไม้ยูคาลิปตัส เพื่อป้องกันดินสไลด์
ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันน้ำที่จะเอ่อล้นมาจากคลองเปรมประชากร และคลองระพีพัฒน์ ที่อ้อมมาทางด้านหลัง ใกล้กันกับ วัดพืชนิมิตร อ.คลองหนึ่ง ซึ่งระดับน้ำนอกแนวคันกั้น สูงกว่า
โดยจากการสอบถามนายทหาร จากกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ กล่าวว่า มีความมั่นใจไม่ถึง 100% เนื่องจาก ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลมาจากหลายทิศทาง จึงทำให้เกิดรอยรั่วหลายจุด ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ก็กำลังเสริมคันดินให้แข็งแรงขึ้น และอุดรอยรั่วอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามปฏิบัติการกู้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อย่างใกล้ชิดต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.15 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ได้สั่งการนิคมอุตสาหกรรมนวนครปิดเครื่องจักรและอพยพของและคนขึ้นที่สูงแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำได้ไหลบ่าลงมาเข้าท่วมประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เดิมที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมนวนครมีโรงงานกว่า 190 บริษัท และมีพนักงานกว่า 2 แสนคน
ข้อมูล จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
น้ำเริ่มไหลเข้าตลาดไทแล้ว
จนท.สภ.คลองหลวง เผยถนนคลองแอน ด้านหลังตลาดไท น้ำท่วมหนักต้องปิดการจราจร ขณะที่น้ำบางส่วนไหลเข้าตลาดแต่ยังไม่มาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนริมคลองแอน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าตลาดไท ทางด้านหลังหมดแล้ว โดยได้ปิดการจราจรเนื่องจากรถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้กันกระแสน้ำไม่ให้เอ่อเข้าท่วมตลาดไท
ขณะที่ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ถนนคลองแอน ที่อยู่ด้านหลังของตลาดไท ยังคงใช้การไม่ได้ เพราะน้ำท่วมสูง ไม่สามารถผ่านได้ ส่วนในพื้นที่ตลาดมีบางส่วนถูกท่วม แต่ไม่มากและเร่งสูบน้ำออกแล้ว โดยประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ทางด้านหน้าถนนพหลโยธิน ซึ่งยังไม่มีน้ำเอ่อท่วม ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครนั้น ทราบว่าทางทหารตรึงกำลังเต็มที่ เพื่อดูแลรักษาคันกั้นน้ำ โดยล่าสุดยังปลอดภัย
ข้อมูลจาก INN
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ประตูน้ำคลองหนึ่ง ปิดไม่ได้!ผู้ว่าฯ กทม.เป็นกังวล ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
16 ต.ค. - ผู้ว่าฯ กทม.เผยสถานการณ์น้ำวันนี้ ห่วงพื้นที่เขตด้านเหนือของกรุงเทพฯ เพราะกรมชลประทานไม่สามารถปิดประตูระบายน้ำคลองหนึ่งได้ เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านไม่ยินยอม ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่เขตสายไหมค่อยๆ สูงขึ้นวันละ 2 ซม. เร่งประสานให้หลีกเลี่ยง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เช้านี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดวัดที่ปากคลองตลาดเมื่อเวลา 09.15 น. อยู่ที่ 2.06 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ส่วนฐานน้ำทะเลวันนี้ ถือว่าสูงสุดในรอบปี ที่ระดับ 1.11 เมตร ส่วนปริมาณน้ำที่วัดได้ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 3,821 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และเมื่อคืนที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ กทม. วัดสูงสุดได้ในพื้นที่เขตธนบุรี 154 มิลลิเมตร (มม.) ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังตามผิวจราจรหลายจุด แต่ขณะนี้ได้ระบายน้ำจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยอมรับว่าระดับน้ำยังคงสูง แต่ยืนยันว่ายังคงรับมือได้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นห่วงพื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯ ด้านเหนือ เนื่องจากกรมชลประทานยังคงเปิดประตูระบายน้ำที่คลองหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้น้ำไหลผ่านเข้ามาตามแนวคลองหกวา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตสายไหม ส่งผลให้ระดับน้ำค่อย ๆ เพิ่มขึ้นวันละ 2 เซนติเมตร หลังจากเข้าพื้นที่สายไหมแล้วจะเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันออกเพิ่มเติม ขณะนี้ กทม.พยายามประสานกรมชลประทานให้หลีกเลี่ยงการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะส่งผลให้พื้นที่ฝั่งรังสิต ปทุมธานี ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนัก และจะค่อย ๆ เข้ามาในพื้นที่ด้านเหนือของ กทม.
"เราพยายามติดต่อไปทุกวันแล้ว แต่กรมชลฯ ก็ยังไม่ดำเนินการปิดตามที่ กทม.ขอ ซึ่ง กทม.ก็ทำอะไรได้ไม่มาก เพราะอยู่นอกพื้นที่ควบคุม ถ้ายังไม่ยอมปิด เราก็จะขอไปเรื่อย ๆ พร้อมทั้งจะดำเนินการสร้างแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันพื้นที่เขตสายไหม ยืนยันยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยังคงรับมือได้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว และว่า กทม.ได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานทหารเพื่อทำแนวป้องกันน้ำในพื้นที่สายไหม โดยเฉพาะบริเวณที่ติดกับแนวคลองหกวา เบื้องต้นจะทำเป็นแนวกระสอบทรายความสูงอย่างน้อย 1 เมตร อย่างไรก็ตาม ต้องประเมินสถานการณ์ทุกวัน หากปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นก็จะเพิ่มความสูงของแนวกระสอบทรายเพิ่มเติม
ข้อมูลจาก - สำนักข่าวไทย
ข้อมูลจาก - สำนักข่าวไทย
มีนบุรีท่วมหนัก!เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินเฉพาะหน้าแล้ว
ผอ.เขตมีนบุรี สรุปตัวเลขผู้ประสบอุทกภัย 35 ชุมชน 4,000 กว่าครัวเรือน ขณะที่ ปภ.ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินเฉพาะหน้าแล้ว
วันที่15 ต.ค. นายอรุณ พ่วงสมบัติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตมีนบุรี สรุปถึงผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตมีนบุรี ว่า ขณะนี้มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 35 ชุมชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 4,636 ครอบครัว รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรม ได้รับความเสียหายแล้ว จำนวน 1,390 ไร่ จากเกษตรกร 194 ราย ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ การเดินทางได้รับความเดือดร้อน
ทางสำนักงานเขตมีนบุรี ก็ได้มีการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการแจกถุงยังชีพ ยาเวชภัณฑ์ ทราย กระสอบทราย ทำสะพานไม้ชั่วคราว เพื่อช่วยในการบรรเทาทุกข์ของประชาชน นอกจากนี้ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประกาศให้เขตมีนบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้าอีกด้วย
ข้อมูลจาก INN
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
นิคมบางปะอิน น้ำทะลัก สั่งอพยพคนด่วน!ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
นิคมอุตสาหกรรมบางประอินไม่รอด น้ำทะลักเข้าแล้ว จนท.ยังพยายามกั้นสุดแรง สั่งเร่งอพยพแล้วออกจากพื้นที่เป็นการด่วน คาดมูลค่าความเสียหายมหาศาลหลังมีโรงงานไฮเทคระดับโลก
15 ต.ค. ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ขณะนี้ น้ำได้ทะลัก เข้าท่วมในนิคมอุสาหกรรมอย่างรุนแรงแล้ว หลังจากที่ได้มีความพยายามต่อสู้กับปัญหานี้มาตั้งแต่เช้ามืดเมื่อวานนี้ และทางการได้สั่งมีการอยพยพคนออกจากนิคมเป็นการด่วนแล้ว
คาดว่า ความเสียหายจะมีมูลค่ามหาศาล เพราะนิคมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โรงงานอุตสาหกรรมไฮเทค ระดับโลกหลายแห่ง เช่น Western Digital ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานผลิต Hard Disk ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เฉพาะโรงงานนี้แห่งเดียว ก็มีมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้านบาท
ด้านนายนที บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า หลังจากที่น้ำได้ทะลักเข้าอย่างแรงในจุดที่ 2 ได้มีการสั่งอพยพให้ทุกคนออกจาก นิคมโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกัน แก้ไข ก็ยังมีหน้าที่ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
15 ต.ค. ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ขณะนี้ น้ำได้ทะลัก เข้าท่วมในนิคมอุสาหกรรมอย่างรุนแรงแล้ว หลังจากที่ได้มีความพยายามต่อสู้กับปัญหานี้มาตั้งแต่เช้ามืดเมื่อวานนี้ และทางการได้สั่งมีการอยพยพคนออกจากนิคมเป็นการด่วนแล้ว
คาดว่า ความเสียหายจะมีมูลค่ามหาศาล เพราะนิคมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โรงงานอุตสาหกรรมไฮเทค ระดับโลกหลายแห่ง เช่น Western Digital ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานผลิต Hard Disk ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เฉพาะโรงงานนี้แห่งเดียว ก็มีมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้านบาท
ด้านนายนที บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า หลังจากที่น้ำได้ทะลักเข้าอย่างแรงในจุดที่ 2 ได้มีการสั่งอพยพให้ทุกคนออกจาก นิคมโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกัน แก้ไข ก็ยังมีหน้าที่ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ข่าวจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ข่าวจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
น้ำท่วมนิคมฯ ไฮเทค เต็มพื้นที่แล้ว!
น้ำทะลักท่วมนิคมฯ ไฮเทค-อยุธยา เต็มพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตัดสินใจถอนกำลัง หลังยับยั้งน้ำที่ไหลเข้าท่วมไม่ได้ เผยระดับน้ำสูง 1 เมตรแล้ว
วันนี้ (14 ตุลาคม 2554) ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) แจ้งสถานการณ์อุทกภัยที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาว่า น้ำได้ไหลเข้าท่วมนิคมฯ ไฮเทค เต็มพื้นที่แล้ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามใช้รถสูบน้ำของสำนักงานสาธารณภัย 6 เครื่อง สูบน้ำออกตลอดทั้งคืนที่ผ่านนั้น แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งน้ำที่ไหลเข้าท่วมได้ โดยขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และคาดว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมเพิ่มอีก เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง จึงได้ตัดสินใจถอนกำลัง นำรถสูบน้ำไปไว้ที่ถนนสายเอเชียแล้ว
ขณะที่ นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ใน อ.บางปะอิน ถือว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ทุกตำบล และล่าสุดน้ำได้ไหลเข้าท่วม นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสุดท้ายของนิคม ประมาณ 50 ราย ต้องออกจากพื้นที่มา ส่วนคนงานในนิคมฯ นั้น ได้ทยอยอพยพออกไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ กระแสน้ำกำลังเข้าท่วมบ้านของ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่บริเวณใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อีกด้วย
สำหรับมาตรการดูแลและช่วยเหลือนั้น นายนัทธี ระบุว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมเรือให้มากที่สุด เตรียมพร้อมในทุกจุดเสี่ยง เพื่อเข้าไปช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากบ้าน หรือพื้นที่เสี่ยงได้ทันที พร้อมกันนั้น ได้จัดเตรียม ถุงยังชีพ อาหารแห้ง ให้พร้อม และได้ประสานกับผู้นำท้องถิ่น ได้ตกลงกับชาวบ้าน เพื่อให้ทำสัญลักษณ์เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ปักธงหน้าชุมชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือทันท่วงที
ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการอพยพเคลื่อนย้ายประชาชน รวมถึงคนไข้ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ว่า ในเวลานี้ ได้มีการศึกษา และประสานเพื่อเตรียมความพร้อมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในการเตรียมรองรับ เช่น รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , รพ.ภูมิพล เป็นต้น รวมถึงลำดับขั้นตอน ในการเคลื่อนย้ายแล้ว
พร้อมกันนี้ ยอมรับด้วยว่า ปัญหาอุปสรรค ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หรือประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากการจราจร ซึ่งล่าสุด ได้มีการประสาน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในการแก้ปัญหาแล้วเช่นกัน พร้อมเตือนประชาชนอย่าเดินทางไปมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยตนเอง เพราะหวั่นได้รับอันตราย
นอกจากนี้ นายวิทยา ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์น้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น ตึงเครียดมากขึ้นทุกวัน และคาดว่า น่าจะป้องกันนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคไว้ไม่ได้ เพราะพนังกั้นน้ำบางจุดอ่อนตัว ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม และเตรียมพร้อมที่จะอพยพคนงาน และสิ่งของแล้ว
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของ อ.บางปะอิน เข้าร่วมตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค หลังจากมีกระแสข่าวว่า น้ำได้ไหลทะลักเข้าพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่แต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้อธิบายว่า แนวคันกั้นน้ำด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคแห่งนี้ มีระยะทางเกือบ 2 กม.
และมีความสูงร่วม 5 เมตรด้วยกัน และมีการเสริมแนวคันกั้นน้ำอย่างแน่หนา ประกอบกับคลองที่อยู่ติดกับคันกั้นน้ำ ไม่มีแรงดันน้ำ ทำให้คันกั้นน้ำแห่งนี้พังลงได้ แต่จุดที่น่าเป็นห่วงจะอยู่บริเวณด้านข้างของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ทางด้านทิศใต้ ที่อยู่ทางติดกับคลอง ซึ่งต่อเนื่องกับแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะว่าเมื่อใดน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้น ก็จะดันเข้าคลองดังกล่าว อาจจะเพราะคันกั้นน้ำที่ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก และอาจทำให้น้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคได้
และมีความสูงร่วม 5 เมตรด้วยกัน และมีการเสริมแนวคันกั้นน้ำอย่างแน่หนา ประกอบกับคลองที่อยู่ติดกับคันกั้นน้ำ ไม่มีแรงดันน้ำ ทำให้คันกั้นน้ำแห่งนี้พังลงได้ แต่จุดที่น่าเป็นห่วงจะอยู่บริเวณด้านข้างของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ทางด้านทิศใต้ ที่อยู่ทางติดกับคลอง ซึ่งต่อเนื่องกับแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะว่าเมื่อใดน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้น ก็จะดันเข้าคลองดังกล่าว อาจจะเพราะคันกั้นน้ำที่ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก และอาจทำให้น้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคได้
ล่าสุด แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจสอบนิคมไฮเทค พร้อมยกเลิกปฏิบัติการชีนุก ขนตู้คอนเทนเนอร์กั้นน้ำแล้ว เพราะระดับน้ำสูงมาก ใช้โป๊ะลำเลียงหินเข้าไปแทน
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก ศปภ.
ข้อมูลจาก ศปภ.
น้ำล้นคลองเปรมประชากร หลังนิคมฯ นวนคร เริ่มท่วม!
น้ำเริ่มเอ่อล้นคลองเปรมประชากรแล้ว ชาวบ้านหลังนิคมฯนวนคร เริ่มอพยพ หลังปริมาณน้ำจากอยุธยาไหลสมทบต่อเนื่อง
วันนี้ (14 ต.ค. 54) น้ำจำนวนมากได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตลอดบริเวณ คลองเปรมประชากร ตั้งแต่เขตต.บางพูน จนถึง เขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ทำให้ประชาชนเริ่มเก็บข้าวของหนีน้ำแล้ว หลังพบว่าระดับน้ำในคลองเปรมประชากร เริ่มเอ่อเข้าท่วมถนนบางจุด เพราะการระบายน้ำลงประตูน้ำบางรอจนไหลไปสมทบกับมวลน้ำที่มาจากคลองบ้านพร้าว ซึ่งอยู่ระหว่างการกู้ช่องทางน้ำที่แตกเสียหาย
โดยชุมชนด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งติดกับทางรถไฟ เริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วม พนักงานและเจ้าหน้าที่ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร กำลังเร่งช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นน้ำ และทำคันดินกั้นน้ำเพิ่มเติมอีกเพราะมีน้ำจากทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไหลเข้าพื้นที่เขตจังหวัดปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง
ข่าวจาก TNN
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ทรู ส่งทีมงาน ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ที่ศูนย์ ศปภ.
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ทาง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร และ นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการสายงานคอนเวอร์เจนซ์ และกรรมการผู้จัดการกลุ่มลูกค้าธุรกิจ บมจ. ทรูฯ พร้อมด้วยทีมงาน และพนักงานจำนวนมาก ตลอดจนเจ้าหน้าที่ จากระบบ IT Call center มาร่วมให้การช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ เจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแห่งชาติ หรือ ศปภ.
ทั้งนี้ได้มีการปรึกษาหารือ ร่วมกัน กับทางท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อทราบถึงแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือ เพื่อให้สอดคล้องเป็นรูปธรรม ในโอกาสนี้ด้วย...บขส.ปรับเส้นทางเดินรถ สายอีสาน หนีน้ำท่วม
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ขณะนี้ บขส. ได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือใหม่ หลังปริมาณน้ำได้เข้าท่วมบริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย บขส. ให้รถโดยสารทุกมาตรฐานที่วิ่งสายยาว วิ่งออกรังสิต–องครักษ์–อ.บ้านนา จ.นครนายก–อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปสู่ภาคอีสาน ยกเว้นรถมาตรฐาน2 ที่ต้องจอดรับระหว่างทาง บขส.จะวิ่งไปรับผู้โดยสารที่รังสิต – นวนคร แล้ววิ่งไปออกองครักษ์ – แยกจปร. เข้าหินกอง จ.สระบุรี ไปสู่ภาคอีสาน
โดย บขส. ให้รถโดยสารทุกมาตรฐานที่วิ่งสายยาว วิ่งออกรังสิต–องครักษ์–อ.บ้านนา จ.นครนายก–อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปสู่ภาคอีสาน ยกเว้นรถมาตรฐาน2 ที่ต้องจอดรับระหว่างทาง บขส.จะวิ่งไปรับผู้โดยสารที่รังสิต – นวนคร แล้ววิ่งไปออกองครักษ์ – แยกจปร. เข้าหินกอง จ.สระบุรี ไปสู่ภาคอีสาน
ส่วนเส้นทางไปสู่ภาคเหนือ บขส.ยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยจะเลี่ยงไปเดินรถในเส้นทางสายบางบัวทอง–สุพรรณบุรี–อ่างทอง และในเส้นทางผ่านจังหวัดนครสวรรค์ จะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอ.ตากฟ้า และ อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ แทน
ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังภาคเหนือด้วยรถโดยสารทุกมาตรฐาน และภาคอีสาน ที่เดินทางในเส้นทางสายยาว มาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 จุดเดียว ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ท่วมแล้ว ท่าพระจันทร์ ลุ้นระทึก!16-18 ต.ค.นี้
ระดับน้ำสูงเข้าท่วมตลาดท่าพระจันทร์แล้ว บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยปิดหนีน้ำ น่้ากังวลกรมอุทกศาสตร์ ระบุ วันที่ 16-18 ต.ค. น้ำทะเลจะหนุนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นไปอีก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ต.ค. บรรยากาศที่บริเวณท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับน้ำสูงเข้าท่วมตลาดแล้ว ส่งผลบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยปิดหนีน้ำ บ้างก็ช่วยกันเร่งวิดน้ำเพื่อยับยั้งให้ข้าวของเสียหายน้อยที่สุด ขณะที่ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ได้มีการยกระดับทางเดินให้สูงขึ้น ทำให้ยังสามารถเดินทางไปขึ้นเรือได้
อย่างไรก็ดีวันนี้ กรมอุทกศาสตร์ ได้ประกาศเตือนว่า ระดับน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบัญชาการ กองทัพเรือ จะมีระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง 2.05-2.10 เมตร ในวันที่ 16-18 ตุลาคม และจะหนุนสูงอีกครั้งในวันที่ 27-31 ตุลาคม ประมาณ 2.2-2.25 เมตร แต่ขณะนี้เพิ่งจะวันที่ 14 ทำให้หลายคนอดกังวลไม่ได้ว่า หากถึงวันที่ 16 ระดับน้ำสูงขึ้น จะเอ่อล้นเข้าท่วมวัดพระแก้วหรือไม่ เนื่องหากข้ามถนนจากท่่าพระจันทร์ ก็เป็นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ 27 ชุมชน นอกแนวคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้เตรียมความพร้อมในการอพยพชาวบ้านไว้แล้ว หากชาวบ้านนอกแนวคันกั้นน้ำต้องการอพยพให้แจ้งกับสำนักงานเขตดำเนินการได้ทันที เพราะคาดว่า 2-3 วันข้างหน้าระดับน้ำจะสูงขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดีวันนี้ กรมอุทกศาสตร์ ได้ประกาศเตือนว่า ระดับน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบัญชาการ กองทัพเรือ จะมีระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง 2.05-
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ 27 ชุมชน นอกแนวคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้เตรียมความพร้อมในการอพยพชาวบ้านไว้แล้ว หากชาวบ้านนอกแนวคันกั้นน้ำต้องการอพยพให้แจ้งกับสำนักงานเขตดำเนินการได้ทันที เพราะคาดว่า 2-3 วันข้างหน้าระดับน้ำจะสูงขึ้นไปอีก
ภาพ ข้อมูลบางส่วนจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์อพยพ มธ.รังสิต น่าห่วง!น้ำล้อมรอบ
16 ต.ค. ภายหลังจากที่สถานการณ์น้ำที่ยังรุนแรงได้พังที่กั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จนไหลเข้าท่วมทั่วพื้นแบบควบคุมไม่อยู่ ทำให้พื้นที่ใกล้เคียงต่างต้องเตรียมตัวและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็นศูนย์อพยพใหญ่ที่รองรับผู้ประสบภัยที่เดือดร้อนหลายพันครอบครัว
โดย นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊คส่วนตัวเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา อีกทั้งยังรายงานสถานการณ์น้ำรอบๆ พื้นที่มหาวิทยาลัย ศูนย์รังสิต ซึ่งระบุไว่ว่า ขณะนี้น้ำได้ท่วมล้อมมหาวิทยาลัยทั้ง 4 ด้าน ด้านเหนือประชิด เอไอที (สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย) ด้านหลังมหาวิทยาลัยคือ สวทช. รถไม่สามารถสัญจรได้แล้ว น้ำห่างสันเขื่อนของมหาวิทยาลัยไม่มาก
ที่กลับรถเชียงรากทางด้านใต้ของมหาวิทยาลัยก็ใช้การไม่ได้แล้ว แต่ถนนยังพอใช้การได้ ส่วนหน้า เดอะ แคมปัส น้ำก็ท่วม ที่กลับรถบางขันน้ำน้ำก็ท่วมเช่นกัน ส่วนด้านตะวันออก ถนนพหลโยธิน รถยังสัญจรได้ 1-2 ช่องจราจร ทางมหาวิทยาลัยได้เสริมคันดินเข้าไปอีก 1.5 เมตร ทั้ง 4 ด้านแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะรองรับได้และปลอดภัยหรือไม่
อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำบริเวณดังกล่าว ยังคงต้องจับตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอย่าง นิคมอุตสาหกรรมนวนครและนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเสี่ยงต่อการถูกน้ำไหลท่วมเป็นพื้นที่ต่อไป
ส่วนการสำรวจความเสียหายล่าสุด นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จำเป็นต้องปล่อยให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ก็ถูกน้ำไหลเข้าท่วมในระดับสูงเช่นเดียวกัน
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ข่าวจากINN
ข่าวจาก
วังน้อย น้ำท่วมสูง
ตำรวจทางหลวงสั่งปิดเส้นทางการจราจรพหลโยธินเส้นวังน้อย-สระบุรีจมกว่า 2 เมตร การจราจรติดขัดยาว 6-10 กิโลเมตร
วันนี้ (13 ต.ค. 54) สถานการณ์น้ำท่วมในจ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงวิกฤติหนัก โดยบนถนนพหลโยธิน ล่าสุดขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางจุดสูงกว่า 2 เมตร มีรถจอดเสียข้างทางอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ตำรวจทางหลวงสั่งปิดเส้นทางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 51-85
โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพหลโยธิน เพราะว่าการจราจรติดขัดยาว 6-10 กิโลเมตร รวมทั้งภายในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ช่วง อ.วังน้อย ระดับน้ำทะลักเข้าท่วมสูง 1.20 เมตร พระสงฆ์และประชาชนเร่งช่วยขนพระไตรปิฎกกว่า 10,000 เล่มหนีน้ำ
โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพหลโยธิน เพราะว่าการจราจรติดขัดยาว 6-
ทั้งนี้ ทางหลวงแนะใช้เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม ดังนี้
1.ถนนพหลโยธิน ช่วง กม. 51 - 58 เขต อ.วังน้อย ทั้งขาเข้า - ขาออก มีน้ำท่วมขังในเส้นทาง โดยเฉพาะ กม. 55 - 57 ระดับน้ำสูง 60 ซม. ทำให้การจราจรติดขัด แนะนำใช้ทางเลี่ยง ถนนวงแหวนตะวันตก - และเส้นทางสายรังสิต - อ.องครักษ์ -บ้านนา - นครนายก เวลา 18.00 น. ปิดการจราจร ถ.พหลโยธิน (ขาเข้า) ที่ กม. 85 - 86 อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อให้รถขาเข้า ใช้เส้นทาง อ.หนองแค - อ.หนองเสือ - อ.ธัญบุรี - คลอง 10 - ถ.รังสิต - องครักษ์ - เข้ากรุงเทพฯ
2. (เอเชีย) ขาออก ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา - อ.บางปะหัน ระดับน้ำสูง ยังคงปิดสะพานเดชาติวงศ์ ปิดการจราจร ถนนพหลโยธิน ไม่ให้เข้าตัว จ.นครสวรรค์ ให้ใช้ทางเลี่ยง จ.นครสวรรค์ ขาออกจากกรุงเทพฯ - เดินทางไปภาคเหนือ แนะนำ 3 เส้นทาง
ขณะนี้ควรเลี่ยงเส้นทางพหลโยธิน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
1.เส้นทางวงแหวนตะวันตก ถึงแยกบางบัวทอง ใช้ถนนตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ไปถึง จ.สุพรรณบุรี เลี่ยงเมืองอ่างทอง ใช้ถนนเอเชีย - ขึ้นต่างระดับอินทร์บุรี - ใช้ตากฟ้า - อ.ไพศาลี - อ.หนองบัว - อ.เขาทราย - พิจิตร - อ.วังทอง - พิษณุโลก ไปภาคเหนือ ช่วง จ.สุพรรณบุรี - ชัยนาท ยังไปได้ แต่จาก จ.ชัยนาท - สวนนก - ต่างระดับที่จะออกถนนเอเชีย รถทุกชนิดผ่านไม่ได้
1.เส้นทางวงแหวนตะวันตก ถึงแยกบางบัวทอง ใช้ถนนตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ไปถึง จ.สุพรรณบุรี เลี่ยงเมืองอ่างทอง ใช้ถนนเอเชีย - ขึ้นต่างระดับอินทร์บุรี - ใช้ตากฟ้า - อ.ไพศาลี - อ.หนองบัว - อ.เขาทราย - พิจิตร - อ.วังทอง - พิษณุโลก ไปภาคเหนือ ช่วง จ.สุพรรณบุรี - ชัยนาท ยังไปได้ แต่จาก จ.ชัยนาท - สวนนก - ต่างระดับที่จะออกถนนเอเชีย รถทุกชนิดผ่านไม่ได้
2.ถนนพหลโยธิน ผ่าน จ.สระบุรี - แยกพุแค ใช้ถนนพุแค - หล่มสัก ผ่าน อ.ชัยบาดาล, อ.ศรีเทพ, อ.วิเชียรบุรี, สี่แยกราหุล เลี้ยวซ้าย ใช้ถนนชัยภูมิ - อ.หนองบัว ถึงแยกไป อ.หนองบัว เลี้ยวขวาใช้ ถนนตากฟ้า - พิจิตร - พิษณุโลก หรือ ถนนพหลโยธิน สระบุรี - พุแค - จ.เพชรบูรณ์ - อ.หล่มสัก - อ.วังทอง - จ.พิษณุโลก จะสะดวกกว่า
ด้านขาเข้ากรุงเทพฯ มาจากภาคเหนือ แนะนำ 2 เส้นทาง
1.จากภาคเหนือ ให้ใช้เส้นทางเข้า จ.พิษณุโลก - อ.วังทอง - อ.หล่มสัก ใช้ทางหลวง 21 - เพชรบูรณ์ - พุแค - สระบุรี เข้าก่อนถึงต่างระดับ อ.วังน้อย ให้เลี้ยวซ้าย ใช้วังน้อย - อ.ธัญบุรี - รังสิต - องครักษ์ หรือใช้ถนนมอเตอร์เวย์ เข้ากรุงเทพฯ
1.จากภาคเหนือ ให้ใช้เส้นทางเข้า จ.พิษณุโลก - อ.วังทอง - อ.หล่มสัก ใช้ทางหลวง 21 - เพชรบูรณ์ - พุแค - สระบุรี เข้าก่อนถึงต่างระดับ อ.วังน้อย ให้เลี้ยวซ้าย ใช้วังน้อย - อ.ธัญบุรี - รังสิต - องครักษ์ หรือใช้ถนนมอเตอร์เวย์ เข้ากรุงเทพฯ
2.จากภาคเหนือจะมาในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี - ชัยนาท - พระนครศรีอยุธยา จากพิษณุโลก - อ.วังทอง - เลี้ยวขวา ใช้พิจิตร - ตากฟ้า - อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี - เอเชียขาเข้า
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก TNN
ข้อมูลจาก TNN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น