วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เกาะติดข่าวน้ำท่วม

ผู้ว่าฯ ลั่น!คนกทม.ฟังคำเตือนจากผมคนเดียว
14 ต.ค. - ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยืนยันสถานการณ์น้ำกรุงเทพมหานครยังไม่ถึงขึ้นวิกฤติ สามารถควบคุมได้ แต่หากมีอะไรผิดพลาดพร้อมรับผิดชอบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าสถานการณ์น้ำพื้นที่กรุงเทพมหานครมีปริมาณมากในฝั่งตะวันออก ประกอบด้วยคลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง และหนองจอก ซึ่งอยู่นอกแนวกั้นน้ำ แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ทุกพื้นที่ยังสามารถควบคุมได้ ส่วนจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือ แนวกั้นน้ำหลักจาก จ.ปทุมธานี และมีการสร้างแนวกั้นน้ำเพิ่มเติมอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
ขณะที่ด้านเหนือ คือ เขตดอนเมือง หากแนวกั้นน้ำรับน้ำไม่ได้ มีน้ำทะลักเข้าพื้นที่ ยังมีแนวคันดินกั้นน้ำอีก 1 ชั้น ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตกยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก จ.ปทุมธานี และนนทบุรี
กรณีศูนย์ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขอให้ชาวบ้านเขตสายไหมและ ดอนเมืองอพยพและสิ่งของขึ้นไปอยู่ที่สูง ยืนยันว่ายังไม่จำเป็น จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก รอฟังคำประกาศของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพียงคนเดียว หากมีการ
อพยพ ตนจะประกาศให้ทราบเป็นคนแรก และยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดยหากเกิดความผิดพลาด พร้อมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ข้อมูลจาก  สำนักข่าวไทย



ศปภ.กลับลำ!ประตูน้ำบ้านพร้าวซ่อมอยู่ อพยพแค่แนะนำ
ล่าสุด  ศปภ. ได้จัดแถลงข่าวอีกครั้ง นำโดย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. กล่าวว่า ประตูคลองบ้านพร้าวยังซ่อมอยู่ ระดับน้ำยังไม่สูง ที่บอกให้อพยพเป็นคำแถลงของนายปลอดประสพ ยังมั่นใจรับมือน้ำท่วมได้ วอนอย่าตื่นตระหนก ย้ำยังไม่มีคำสั่งให้อพยพของศปภ.เป็นเพียงคำแนะนำ ขณะที่ นาย ปลอดประสพ รมว.วิทยาศาสตร์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครปลอดภัย 100 %
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูล จาก  ศปภ.



ประตูคลองบ้านพร้าวแตก อพยพด่วน!ดอนเมือง ตอนบน
ศปภ.แจ้งด่วน!! ประตูคลองบ้านพร้าวแตก ไม่สามารถซ่อมได้ ให้ประชาชนอพยพด่วน!
ในพื้นที่
คลองหลวง เชียงรากน้อย ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต รังสิตตอนบน ลำลูกกา สายไหม ดอนเมืองตอนบน หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ หมู่บ้านไวท์เฮาส์ โดยเฉพาะที่อยู่เหนือรังสิต-ปทุม แนะให้นำรถไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย และขนย้ายของขึ้นชั้น 2 โดยด่วน คาดน้ำจะสูงประมาณ 1 เมตร
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก ศปภ.


คลองรังสิต น้ำยังขึ้นต่อเนื่อง!
ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะศูนย์ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แจ้งเตือนระดับความปลอดภัยของน้ำกับประชาชน
สถานการณ์น้ำล่าสุดในขณะนี้ที่บริเวณหมู่ที่ 4 และ 5 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ปริมาณน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยขณะนี้ระดับน้ำมีความสูงประมาณ 45 เซนติเมตร จากระดับน้ำภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งบางจุดนั้นก็ได้ไหลปริ่มแนวกระสอบทรายเข้ามาภายในหมู่บ้าน โดยทางกองบัญชาการป้องกันทางอากาศยานกองทัพบก เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้นำทรายบรรจุกระสอบเพื่อมาวางเพิ่มเป็นแนวกั้นให้มีความสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้มีการนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งภายในหมู่บ้านเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่ภายในหมู่บ้านออกโดยศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานเข้า - ออกหมู่ที่ 4 และ 5 ได้มีการแจ้งเตือนระดับความปลอดภัยของน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำอยู่ในขั้นอันตรายให้ประชาชนออกจากบ้านเรือนที่พักอาศัย อย่างไรก็ตามในขณะนี้ พื้นที่ดังกล่าวนั้น ยังสามารถรับมือกับปริมาณน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ได้ ถึงแม้จะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นตลอดเวลา
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลบางส่วนจาก INN


 อ.สามโคก ปทุมธานี ต้องจับตา น้ำท่วม2จุด

น้ำท่วมที่ อ.สามโคก ปทุมธานี การแก้จุดวิกฤตยังไม่เป็นผล
วันนี้(13ต.ค.) เวลา 14.00น. สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปทุมธานี ต้องจับตาวิกฤตสำคัญ 2 จุด จุดแรกบริเวณประตูระบายน้ำคลองพร้าว ฝั่งเชียงราก จุดที่ 2 คือถนนปทุมธานี เสนา ช่วงที่ผ่านอำเภอสามโคก ระดับน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเมืองตลอดเวลา ขณะที่ชาวบ้านยังไม่ยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่สร้างคันกั้นน้ำขึ้นใหม่
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก สำนัก ข่าวไทย



เขตลาดกระบัง ตั้งศูนย์ป้องกันน้ำท่วม
นายประวิช ศรีวิลัย ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง แจ้งว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เขตลาดกระบัง เพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน และศูนย์ข้อมูลข่าวสารในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเขตลาดกระบัง สามารถติดต่อสอบถามและประสานงานได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 327 0952, 02 326 9149 (ในเวลาราชการ) และ 02 326 7708 , 02 326 7709 (ตลอด 24 ชั่วโมง) 

อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมของศูนย์อพยพทั้ง 21 แห่ง ในพื้นที่ โดยใช้สถานที่โรงเรียน กทม.ในสังกัด จำนวน 20 แห่ง และโดยความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังอีก 1 แห่ง เพื่อสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นกรณีฉุกเฉินโดยจัดรถ บริการรับ-ส่งฟรี ในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังสูง รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนรถยีเอ็มซี (รถทหาร) จำนวน 3 คัน

จาก ปตอ.พัน 4 วิ่งรับ-ส่งประชาชนใน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ตลาดหัวตะเข้-สถานีตำรวจภูธรเปร็ง (ถนนหลวงแพ่ง)  2. ตลาดหัวตะเข้ วัดขุมทอง (ถนนหลวงแพ่ง-ถนนขุมทองลำต้อยติ่ง) และ 3. สถาบันเทคโนฯ ลาดกระบัง-ถนนคุ้มเกล้าใต้ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก ขสมก. อีก 4 คัน วิ่งรับส่งประชาชนจากตลาดหัวตะเข้-หมู่บ้านบาหลีบีช (ถนนหลวงแพ่ง).
ภาพ จากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย



ท่าน้ำนนท์ น่าห่วง ฝนถล่มซ้ำ น้ำสูง เข้าขั้นวิกฤติ
ท่าน้ำนนท์ เข้าขั้นวิกฤติ น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก หลังฝนถล่มซ้ำอีก ทางด้านเจ้าหน้าที่ก่อกระสอบทรายสูงกว่า 2 เมตร ป้องกันน้ำทะลักแล้ว
           สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดเมื่อคืน วันที่ 12 ตุลาคม ที่บริเวณท่าน้ำนนท์ เทศบาลนครนนทบุรี  จ.นนทบุรี ขณะนี้ระดับเพิ่มสูงขั้นอย่างรวดเร็ว โป๊ะท่าน้ำลอยขึ้นจนเกือบสุดเสายึดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้นำกระสอบทรายก่อเป็นกำแพงกั้นน้ำสูงประมาณ 2 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้ามา
         ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 ตัว คอยสูบน้ำออกตลอดเวลา พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน และบรรเทาสาสาธารณภัย คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
        อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.50 น.ของวันที่ 12 ตุลาคม  ได้เกิดฝนตกหนักถล่มซ้ำอีกครั้ง ทำให้กระแสน้ำน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเชี่ยวกราก เรือโดยสารที่ต้องข้ามฟากไปยังฝั่งบางบัวทองต้องใช้ความระมัดระวังในการควบคุมเรือเป็นอย่างมาก ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยานั้นยังเปิดบริการตามปกติ แต่ต้องบังคับเรือให้ช้าลงกว่าเดิม เพื่อลดความแรงของน้ำที่จะพัดเข้าบ้านเรือนประชาชน
ภาพประกอบจาก วอยส์ นิวส์


ผู้ว่าฯ กทม.รับไม่มีพื้นที่ไหน ปลอดภัยจากน้ำท่วม!
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยอมรับตอนนี้ไม่มีพื้นที่ไหนปลอดภัยจากน้ำร้อยเปอร์เซ็นต์
กรุงเทพฯ 12 ต.ค. ผู้ว่าฯ กทม.สั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังน้ำที่อาจเข้าสู่พื้นที่ กทม.ทุกจุด พร้อมยอมรับทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังได้ทั้งหมด และสั่งงดการเดินเรือโดยสารในคลองแสนแสบ 2 วัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ซึ่งพบว่าน้ำได้เข้าสู่พื้นที่อาศัยของประชาชนบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า คลองทวีวัฒนายังสามารถรับสถานการณ์น้ำได้อีก 50 เซนติเมตรโดยจะเร่งระบายน้ำออกผ่านคลองมหาสวัสดิ์

ขณะที่ในการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ มีมติให้เพิ่มการระบายน้ำในคลองทวีวัฒนา เพื่อรับน้ำจากจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานีเพิ่มเติม นอกจากนี้ กทม.ร่วมกับกองทับเรือและกองทัพบก ทำการเสริมกระสอบทรายเพิ่มตั้งแต่ แนวคันกั้นน้ำคลองทวีวัฒนา และคลองมหาสวัสดิ์ จากเดิมที่ความสูง 2.75 เมตร เพิ่มอีก 50 เซนติเมตรด้วย
พร้อมกันนี้แจ้งว่า เนื่องจาก กทม.จะเร่งระบายน้ำในคลองแสนแสบ และคลองประเวศผ่านอุโมงค์ระบายน้ำพระโขนงเพื่อจะได้ระบายออกสู่แม่น้ำเจ้า พระยา และออกสู่ทะเลต่อไป เพื่อเป็นการรองรับน้ำฝนที่จะตกในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค. เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ชั้นใน และช่วยระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออก จึงขอความร่วมมือให้งดการเดินเรือโดยสารและเรือทุกชนิด ในคลองแสนแสบ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ โดยยืนยันว่าการระบายน้ำในคลองแสนแสบจะไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในสองฝั่งริม ทางเดินเรือตามที่มีข่าวลือแน่นอน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยอมรับว่าทุกพื้นที่ของ กทม.มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมขังได้ทุกจุด "ณ ตอนนี้ไม่มีพื้นที่ใดในกรุงเทพฯ ที่ปลอดภัยเต็มร้อย อยากตั้งเป็นสมมติฐานเพื่อให้ประชาชนมีการตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นตระหนก และไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่จะถูกน้ำจากด้านเหนือท่วม แต่อาจเจอปัญหาน้ำที่เกิดจากฝนตกลงมาในพื้นที่ในช่วงนี้"
ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ข้อมูลจาก-สำนักข่าวไทย
ภาพจากอินเตอร์เน็ต


ศปภ.หวั่นน้ำจากปทุมฯ เมืองนนทบุรี ทะลักกรุงเทพฯ

ศปภ.ยอมรับสถานการณ์น้ำปทุมธานี และ นนทบุรี ควบคุมไม่ได้ ไม่การันตี กทม.น้ำท่วมหรือไม่ แต่ยืนยันไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวยืนยันว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและไม่ถึงขั้นต้องแจ้งเตือน โดยในวันที่ 28-30 ต.ค. นี้ แต่ต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนเพราะสถานการณ์อาจจะหนักกว่าในช่วงนี้
โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า ปัญหาแนวคันกั้นน้ำพังหลายจุดในจ.ปทุมธานี ทำให้สถานการณ์น้ำรุนแรงมากขึ้น ขณะนี้ไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่า กทม.ชั้นในจะปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วมหรือไม่ แต่จะพยายามป้องกันเต็มที่ เต็มความสามารถ ซึ่งปัจจัยน้ำจะเข้ามาถึงหรือไม่อยู่ที่ 3 ปัจจัย คือ น้ำฝนจากพายุ น้ำเหนือ และ น้ำทะเลหนุน  ซึ่งแนวป้องกันที่ดีที่สุด คือ การผันน้ำทะเล ขณะนี้มีเรือของภาครัฐและเอกชน 1,000 ลำ กำลังเร่งดำเนินการพร้อมกับการผันน้ำจากแม่น้ำป่าสักลงทะเลด้านตะวันออก และสมุทรปราการ
ขณะเดียวกันคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถือว่าสูงมั่นคงรองรับได้และมีแนวป้องกันของกรุงเทพมหานคร และ ศปภ. 3 จุด ที่จะเสร็จวันพรุ่งนี้ คือที่ หลัก 6 เมืองเอก ศาลายา ตลิ่งชัน และ รังสิต คลอง 1-8 โดยด้านตะวันตกนั้นผันน้ำลงแม่น้ำท่าจีน ด้านตะวันออกลงคลองระพีพัฒน์ นอกจากนี้ยังจะประสานไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเรื่องที่จอดรถ
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.


ประตูน้ำพัง!เมืองปทุมฯ จมน้ำทันที
เมื่อ ช่วง 4ทุ่ม ของคืนวันจันทร์ที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุประตูน้ำวัดป่าฝ้าย เขตตำบลกระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี บานเหล็กประตูน้ำได้พังทลายลงทั้งสองบาน เป็นเหตุทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลกระหน่ำเข้าพื้นที่ชั้นในทันที และที่วัดหงษ์ปทุมาวาส แนวกั้นน้ำข้าง ร.ร.วัดหงส์ฯ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าโรงเรียน ท่วมถึงชั้นสอง และรถที่จอดภายในวัด จมน้ำไปหลายคัน
ซึ่งได้มีชาวบ้าน เข้าช่วยป้องกันน้ำ นำกระสอบทรายมาปิดกั้นรั้วโรงเรียนเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าตัวตลาด และในพื้นที่อำเภอสามโคก ทาง อบต. ได้ออกประกาศให้ย้ายผู้คนออกจากบ้านได้แล้ว เพราะกระแสน้ำได้ไหลแรงมาก เกรงว่าประชาชนจะไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้ แนวกั้นน้ำวัดปทุมทอง อ.สามโคก เขตฝั่งตะวันออก ได้พังทลายลง ทำให้น้ำทะลักเข้าพื้นชั้นใน หาก เจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่อยู่ เขต อ.คลองหลวง และ อ.ธัญบุรี จะได้รับผลกระทบทันที ซึ่งทางผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้จัดหาอุปกรณ์เร่งด่วน รีบทำการปิดกั้นน้ำให้ได้ก่อน
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต


ล่าสุด!เตือน9เขต กทม.เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หรือ ศภช. ประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน 13 จุด ในพื้นที่ 9 เขต ใน กรุงเทพฯ
1.แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม
2.แขวงทุ่งสองห้อง เขตดอนเมือง
3.แขวงคลองถนน และแขวงสายไหม เขตสายไหม
4.แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน
5.แขวงจรเข้บัว และแขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
6.แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
7.แขวงคลองจั่น และแขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
8.แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง
9.แขวงคลองสองต้นนุ่น และแขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง
ข้อมูลจาก ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต


ช็อค!คันกั้นน้ำ นครสวรรค์ แตก
มีรายงานข่าวด่วน ช่วงเช้าของวันจันทร์ ที่ 10 ต.ค. ได้เกิดมีคันดิน กั้นน้ำเทศบาลนครสวรรค์ บริเวณตลาดบ่อนไก่ พังทลาย ประมาณ 100 ม.ทำให้น้ำทะลักเข้าเทศบาลนครสวรรค์สูง 50-100 ซ.ม. แล้ว
นายกเทศบาลนครสวรรค์ สั่งอพยพประชาชนด่วน โดยน้ำเข้าทางโรงน้ำแข็ง ถ.โกสีย์ ไหลทะลักเข้าเกือบจะถึงโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และวัดโพธาราม ประชาชนแย่งกันออกจากพื้นที่เสี่ยงทำให้การจราจรโดยรอบติดขัดมาก
ทั้งนี้ เทศบาลนครนครสวรรค์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ทหาร และประชาชน ต่างช่วยกันเร่งขนกระสอบทราย หินคลุก อุดรอยรั่วของเขื่อนเป็นการด่วน
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต- ไม่เกี่ยวกับข่าว


คาดนิคมฯโรจนะ เสียหาย จากน้ำท่วมหนัก!
นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แจงน้ำท่วมไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ในขณะนี้
ภายหลังที่เกิดน้ำท่วมใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้โรงงานหลายแห่งได้ประกาศปิดชั่วคราว โดยมีบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ได้รายงานมายังตลาดหลักทรัพย์ เริ่มจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA)

 โดย นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ ได้ออกมาชี้แจงว่า
ขณะนี้ บริษัทยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ยอมรับว่า ปัจจุบันกิจการทั้งหมดในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ได้หยุดดำเนินการส่งผลกระทบต่อรายได้ ด้านบริการสาธารณูปโภค ซึ่งหลังจากสถานการณ์คลี่คลายจะสามารถสรุปความเสียหายได้
บริษัท ซิงเกิ้ลพอยท์พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) แจ้งว่า โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ได้หยุดการผลิต ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมอินทราจ.สิงห์บุรี ที่มีสัดส่วนรายได้ 50 % ยังคงดำเนินการผลิตอยู่
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น